บริการปากกระจับ ที่คลินิกศัลยกรรม : ความงาม Dr.Apple Clinic

การทำปากกระจับคือ

การผ่าตัดเพื่อแก้ไขริมฝีปากที่หนาผิดสัดส่วนให้บางลงได้สัดส่วนที่เหมาะสมพอดี หรือ ตกแต่งริมฝีปากที่ไม่ได้รูป ให้ได้รูปที่สวยงามมากขึ้น 

รวมไปถึง การผ่าตัดแก้ไข ริมฝีปากที่มีความผิดปกติ เช่น มีแผลเป็น เหี่ยวยู่ย่น มีเนื้อเกิน เคยผ่านการฉีดสารเเปลกปลอม มีภาวะเเทรกซ้อนจากการผ่าตัด ให้ได้รูปทรง ที่สวยงาม รับกับโครงสร้างใบหน้าในคนไข้เเต่ละคน เพื่อเพิ่มความสวยงาม ดึงดูดใจ และยังช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น

นิยมทำในคนไข้ทางเอเชีย เช่น ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลี และอีกหลายๆประเทศ

โดยทั่วไป แพทย์จะออกแบบให้สวยพอดีกับรูปหน้า สีผิว บุคคลิก และสัดส่วนที่พอเหมาะ

ทำไมต้องทำปากกระจับ ???

ในคนไทยและคนเอเชีย มักจะมีปัญหาเรื่องริมฝีปากหนาเกินไป ริมฝีปากห้อยเกินไป 

อีกทั้งโครงหน้าของคนไทย มักจะมีโครงหน้าที่สั้น เมื่อเทียบสัดส่วนของใบหน้า ยิ่งทำให้ ริมฝีปาก ดูหนา และดูห้อยมากขึ้นไปอีก

นอกจากนั้น ก็คือความเหี่ยวยู่ย่น ของริมฝีปาก ปากไม่เป็นทรง ริมฝีปากเป็นแผลเป็นจากอุบัติเหตุ 

อีกหนึ่งปัญหาที่พบมากขึ้นเรื่อยๆ คือริมฝีปากที่เกิดภาวะเเทรกซ้อน ตึง รั้ง แผลเป็นแข็ง ไตเเข็ง ที่เกิดตามหลังการผ่าตัดปากกระจับมาก่อน และริมฝีปากที่เกิดภาวะเเทรกซ้อนจากการฉีดสารแปลกปลอมต่างๆ

จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีการผ่าตัดริมฝีปาก ให้มีรูปทรงที่สวยงาม มีสัดส่วนที่เหมาะสม รวมไปถึงผ่าตัดเพื่อการแก้ไขปัญหาต่างๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้นทั้งนี้ การมีริมฝีปากที่สวยงาม จะช่วยส่งเสริม ให้ใบหน้ามีมีความโดดเด่น ดึงดูดใจ สร้างความประทับตราตรึงใจ ให้แก่คู่สนทนา รวมถึงสร้างความมั่นใจ ให้แก่ตัวคนไข้เอง

ข้อควรรู้ก่อนทำปากกระจับ

เพราะทรงปากที่สวยงาม ช่วยให้ใบหน้าสวยขึ้นมาก มุมปากที่เหมาะสมช่วยให้ใบหน้าไม่บึ้งตึง กระจับที่พอเหมาะพอดี ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์

แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ในการผ่าตัดตกแต่งริมฝีปาก ซึ่งมีแง่มุมหลากหลาย ที่คนไข้เเละแพทย์ ต้องตระหนักให้ความสำคัญ เช่น

1.ริมฝีปากมีเนื้อเยื่อจำกัด เป็นเนื้อเยื่อเฉพาะ พังเเล้วแก้ยากมาก หรือ แก้ไม่ได้เลย

2.เคสแก้ จะทำให้สวยเหมือนเคสทำใหม่ ไม่เคยผ่าตัด เป็นไปได้ยาก เพราะมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพเนื้อเยื่อไปหมดแล้ว

3.ยิ่งพัง ยิ่งแก้ ยิ่งยาก ยิ่งเสี่ยง ยิ่งหวังผลการผ่าตัดที่ดีได้ยากยิ่ง หากเจอหมอขาดประสบการณ์ยิ่งไปกันใหญ่

4.เนื้อเยื่อริมฝีปากบอบบางมาก ไวต่อการบวม ไวต่อการเน่าติดเชื้อ เนื้อเยื่อเปื่อยยุ่ย จึงต้องมีรายละเอียดมากมาย 

ทั้งเทคนิกการผ่าตัด ความชำนาญ รายละเอียดในระหว่างการผ่าตัด การตัดเลาะ การจัดเรียง การวางโครงสร้างใหม่

***ไม่ใช่เเค่ เย็บแผลสวยๆ เท่านั้น

5.เทคนิคการเย็บต้องถูกต้อง ทั้งรายละเอียดไหม ชนิดใด ขนาดไหน เย็บเทคนิคแบบไหน นำ้หนักมือในการเย็บ การผูกไหม ตัดไหมเมื่อไหร่ 

ทุกอย่างมีเหตุผลรองรับเสมอ ว่าเพราะอะไร  

6.ต้องใส่ใจ การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด ระหว่างผ่าตัด หลังผ่าตัด ระยะเเรก ระยะสั้น ระยะยาว 

รู้ว่า เมื่อเกิดภาวะเเทรกซ้อนแบบไหน ต้องแก้ปัญหาอย่างไร และเมื่อไหร่

7.ในแต่ละเคส แต่ละริมฝีปาก แต่ละเนื้อเยื่อ แต่ละบริเวณ มีรายละเอียด ข้อจำกัด ข้อพึงระมัดระวัง แตกต่างกันไป

การแก้ปัญหา เพื่อให้ได้ผลการผ่าตัด ที่ดี ในคนไข้เเต่ละราย ก็แตกต่างกัน

8.ริมฝีปาก อยู่บนใบหน้า สังเกตุเห็นได้ชัด เมื่อมีภาวะแทรกซ้อน มีข้อผิดพลาด หรือ ทำออกมาไม่สวย มีรูปร่างริมฝีปากผิดปกติ ไม่เป็นธรรมชาติ 

***จะสังเกตุได้ชัดเจนมาก ไม่เหมือนการผ่าตัด ในบริเวณ อื่นๆของร่างกาย

การปฏิบัติตัวหลังการทำปากกระจับ

หลังการผ่าตัด แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัว การดูแลรักษาบาดแผล เบื้องต้นดังนี้

1.ปฏิบัติตามคำแนะนำโดยเคร่งครัด รวมถึงรับประทานยาตามแพทย์สั่ง

2.ประคบเย็นบ่อยๆ ในช่วง 3-4 วันแรกหลังการผ่าตัด เพื่อช่วยลดอาการบวม

3.ทำความสะอาดริมฝีปาก และช่องปาก อย่างถูกวิธีตามคำแนะนำ

4.แปรงฟันด้วยบาสีฟันเด็ก ยาสีฟันเด็ก และบ้วนปากบ่อยๆ ด้วยน้ำยาบ้วนปาก ที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์

5.งดของหมักของดอง บุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอร์ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด

6.ควรทานอาหาร อ่อนๆ ทานง่าย ทานคำเล็กๆ รสไม่จัด เป็นอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่และตั้งทิ้งไว้ให้หายร้อนเสียก่อน

7.งดการทาลิปสติกสี ประมาน 1 เดือน เพื่อป้องกันการระคายเคืองจากสารเคมี ที่อาจจะทำให้ริมฝีปากคล้ำขึ้น สำหรับลิปมัน หรือวาสลีน สามารถใช้ได้ตามคำแนะนำ

8.หลังการตัดไหม ควรนวดริมฝีปากตามคำแนะนำ โดยเคร่งครัด จะช่วยให้การขยับริมฝีปากเป็นธรรมชาติ ได้เร็วยิ่งขึ้น

คำถามยอดฮิต เกี่ยวกับการผ่าตัดตกแต่งริมฝีปาก

1.ทำปากเจ็บไหม..???

ไม่ได้เจ็บมาก คล้ายๆกับการทำฟัน เป็นการผ่าตัดเล็ก คุณหมอมีการบล็อคยาชาก่อนการผ่าตัด อาจจะมีความรู้สึก เจ็บเล็กน้อยตอนเดินยาชา จะรู้สึกเหมือนมีมดกัดเบาๆ

2.ใช้เวลาผ่าตัดนานหรือไม่…???

หากทำผ่าตัด ริมฝีปากบนอย่างเดียว ใช้เวลาผ่าตัดประมาน 20-25นาที และหากผ่าตัด ทั้งปากบน ปากล่าง ใช้เวลาผ่าตัดประมาน 40นาที ค่ะ( นอนฟังเพลงชิวๆ ประมาน 4-6เพลง ค่ะ )

3.ต้องใช้เวลาพักฟื้นกี่วัน…???

ควรจะพัก เพื่อดูแลแผลและประคบเย็น ได้เต็มที่ 3-5 วัน ช่วงการพักฟื้นจะต้องดูแลปากอย่าเคร่งครัด ประคบเย็นให้มากที่สุด มีวินัยในการทานอาหาร งดอาหารร้อน อาหารรสจัด ควรเป็นอาหารที่ทานง่าย งดการสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช็ดทำความสะอาดแผลบ่อยๆ 

4.หลังผ่าตัด จะบวมมากแค่ไหน…???

โดยเทคนิคการผ่าตัด ถือว่าเป็นเทคนิค ที่บวมน้อยที่สุด แต่ก็มีปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่นความมีวินัยในการประคบเย็น วินัยในการทำความสะอาดแผล พูดน้อย การทานอาหารที่แนะนำ

โดยปกติ  จะบวมเยอะที่สุด ในวันที่ 3 หลังผ่าตัด จากนั้นแผลก็จะค่อยๆยุบลง 

นอกจากนั้น การบวม ยังขึ้นกับเนื้อเยื่อของแต่ละคนด้วย เช่นริมฝีปากนุ่มๆ คนไข้อายุเยอะ หรือเคยสักปาก ปากหนาๆที่ต้องตัดออกเยอะๆ ก็จะบวมมากกว่าคนไข้ท่านอื่นๆ ได้

5. จำเป็น ต้องตัดไหม หรือไม่….???

เคสปกติทั่วไป คุณหมอจะใช้ไหมละลายในการเย็บ แต่ก็จำเป็นมาก ที่จะต้องตัดไหม ตามกำหนดทุกเคส เพื่อป้องกัน การเกิดแผลเป็น ตามรอยเข็มเย็บ และกำหนดให้ตัดไหม ในวันที่ 7-10 วัน หลังการผ่าตัดค่ะ

สนใจสอบถามเพิ่มเติม:

Tel: 088-399-4051

LINE: @dr.apple789

IG: dr.apple_thailand

Facebook: ปากกระจับ เสริมจมูก ตัดปีก หมอเปิ้ล

#drapple #lipreduction #nosewingreduction #หมอเปิ้ล #ปากกระจับ #ตัดปีกจมูก #ฉีดสารเติมเต็มริมฝีปาก #upperliplift #liplifting #ยกริมฝีปากบน #lateralliplift #lip#surgery#lipreduction#lipsurgery#lipplasty#smilelip#lipaugmentation#lipfiller#alarreduction#alarplasty#nosewingreduction#drapple#drappleclinic#drapplethailand#bangkok#thailand#หมอเปิ้ล#ปากบาง#ปากกระจับ#ปากสวย#ตกแต่งริมฝีปาก#ปากหนา#ปากห้อย#ตัดปีกจมูก#ปีกกว้าง#ปีกบาน

*ผลลัพธ์การรักษา ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคลเท่านั้น 

*ภาพถ่ายใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย 

*รีวิวนี้ได้รับการยินยอมให้เผยแพร่จากผู้เข้ารับบริการ